เราอยู่ในยุคที่เราสามารถสร้างธุรกิจได้จากที่บ้าน หรือจากคาเฟ่ที่ไหนสักแห่งที่เราสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าทำแบบพาร์ไทม์ หรือแบบฟูลไทม์ เราสามารถออกแบบไลฟ์สไตล์ของเราเองได้
เมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยผมยังทำงานประจำ สิ่งที่ผมทำคู่กับงานประจำคือการหาสินค้ามาขายออนไลน์ ทั้งแบบสต๊อก และไม่สต๊อก จนกระทั้งลาออกจากงานประจำมาขายสินค้าออนไลน์แบบเต็มตัว ซึ่งสินค้าที่ผมขายก็มี เฟอร์นิเจอร์ ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม และล่าสุดคืออาหารเสริม ที่ยังคงขายอยู่จนถึงปัจจุบัน
ทั้งการขายออนไลน์แบบพาร์ทไทม หรือ แบบฟูลไทม์ของผม มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ สินค้าจับต้องได้ ซึ่งมีขั้นตอนในการขายและการส่งมอบที่ทำให้รู้สึกว่ามันหลายขั้นตอนไปหน่อย และไม่ค่อยคล่องตัว (เพิ่งจะมาคิดได้ก็เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง คิดได้ตอนยอดขายอีคอมเมิร์สเริ่มลดลง)
ถึงตอนนี้ผมเริ่มหันมามีใจให้กับสินค้าดิจิตอล (Digital Product) ซึ่งมีความต่างจากสินค้าจับต้องได้เอามาก ๆ (ไม่ได้หมายความว่าขายสินค้าจับต้องได้ไม่ดีนะครับ แค่ผมรู้สึกกับสินค้าดิจิตอลมากกว่าสินค้าจับต้องได้ที่ผมขายอยู่)
สินค้าดิจิตอล (Digital Product) มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
– ขายได้ไม่จำกัด ไม่ต้องกังวลเรื่องสต๊อก สินค้าดิจิตอลเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิคในรูปแบบไฟล์ เราสามารถสร้างและขายได้ซ้ำ ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหมดสต๊อก
– หมดห่วงเรื่องขนส่ง สินค้าดิจิตอลจะจัดส่งผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงลูกค้าสั่งซื้อและชำระค่าสินค้าก็สามารถดาวน์โหลดสินค้าไปได้เลย
– ยิ่งขาย ต้นทุนยิ่งลดต่ำลง สินค้าดิจิตอลสามารถขายซ้ำ ๆ ได้เรื่อย ๆ ยิ่งขายยิ่งต้นทุนต่อหน่วยลดลงเรื่อย ๆ
– ขายได้ทั่วโลก ขายได้ 24 ชั่วโมง สินค้าดิจิตอลสามารถขายได้ทั่วโลก เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากประเทศต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และสามารถเปิดร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– กำไรที่เย้ายวน เนื่องจากสินค้าดิจิตอล ไม่มีต้นทุนในการจัดส่ง การสต๊อก จึงลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไป และเปลี่ยนมาเป็นกำไรแทน
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงเริ่มคิดบ้างแล้วใช่ไหมว่าแล้วจะขายอะไรดี หรือทำสินค้าดิจิตอลอะไรดี ใช่ไหมล่ะ ? วันนี้ผมได้รวบรวมหมวดหมู่สินค้าดิจิตอลที่น่าสนใจมาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้พิจารณาเพื่อว่าจะได้นำมาเป็นไอเดียตั้งต้นในการสร้างสรรค์สินค้าดิจิตอลของเพื่อน ๆ เอง
ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกหมวดหมู่ไหน ไม่ว่าจะขายออนไลน์หรือออฟไลฟ์ มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากเพิ่มเติมให้เพื่อน ๆ ก็คือ การสร้างสินค้าด้วยคุณค่าและคุณประโยชน์ที่สูงที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสิ่งนี้ผมเรียกมันว่า “กุญแจสำคัญ”
มาดูกันดีกว่าครับว่า สินค้าดิจิตอลนั้นมีหมวดหมู่อะไรบ้าง และหมวดหมู่ย่อยอะไรบ้าง
1 การเขียน (Writing) เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยการเขียน ไม่ว่าจะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยว เขียนนิยาย หรือความรู้ต่าง ๆ เขียนทุกอย่างลงบนเอกสารและแปลงออกมาเป็นอีบุ๊คส์ อีบุ๊คส์เป็นสินค้าดิจิตอลที่ค่อยข้างขายง่ายและไม่ซับซ้อนอะไรมาก ขอเพียงเพื่อน ๆ มีไอเดียก็สามารถทำได้
ลองมาดูตัวอย่างหมวดหมู่ย่อยของอีบุ๊คส์ (eBook) คราว ๆ ดังนี้
– นวนิยาย (Fiction)
– ไม่ใช่นวนิยาย (Non fiction)
– บทกวี (Poetry)
– สูตรอาหารต่าง ๆ (Recipe)
– นิตยสาร
– อีเมล์เทมเพลต ต่าง ๆ (อีเมล์เสนอขายสินค้า เป็นต้น)
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจสร้างสินค้าดิจิตอลกลุ่มอีบุ๊คส์ขาย ผมมีคอร์สสอนนะครับ หากสนใจคลิกที่ลิงค์นี้ได้เลย คอร์สเรียน Beginner’s guide to selling digital products 2020
2 เสียง (Audio) หากเพื่อน ๆ มีความสามารถในการสร้างเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียง intro , เสียงกลอง , เสียงนก , เสียงเคาะประตู หรือแม้แต่เพลง ก็สามารถขายในรูปแบบ mp3 , mp4 ได้ ในหมวดหมู่ของ Audio มีหมวดหมู่ย่อย คราว ๆ ดังนี้
– เพลง
– เสียงประกอบ
– เสียงเรียกเข้า
– เพลงประกอบ
– พากษ์เสียง
3 วิดีโอ (Video) เป็นอีกสินค้าดิจิตอลที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เนื่องจากเป็นมัลติมีเดียที่สามารถดึงดูดให้ผู้ดูสามารถดูได้นานขึ้นและไม่เบื่อ เนื่องจากมีทั้งภาพและเสียง จะสังเกตุได้ว่าทุกวันนี้เราหันไปเสพยูทูปมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ เนื่องจากการนำเสนอของยูทูปเบอร์ทำได้น่าสนใจมากขึ้นนั้นเอง ลองมาดูตัวอย่างหมวดหมู่ย่อยของวิดีโอกันบ้างครับ
– หนังสั้น
– วิดีโอ intro
– วิดีโอสต๊อก
– วิดีโอคู่มือสอนใช้งาน
– สารคดี
4 งานออกแบบ (Disign) สำหรับงานออกแบบก็เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ และมีขนาดที่ใหญ่มาก ๆ หากเพื่อน ๆ ที่มีทักษะทางด้านนี้อยู่แล้ว คงไม่ยากที่จะเข้าไปสร้างรายได้จากการทำสินค้าดิจิตอล แต่หากใครยังไม่ชำนาญ หรือสนใจก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้นะครับ
เราลองมาดูหมวดหมู่ย่อยของกลุ่มงานออกแบบกันบ้างครับ
– วอลล์เปเปอร์
– โปสเตอร์/ งานพิมพ์
– อิโมจิ
– ตัวอักษร
– โลโก้
– นามบัตร
– ภาพประกอบ
– เวคเตอร์
– โมเดล
– การ์ตูน
– ลายเสื้อผ้า
5 ภาพถ่าย (Photography) เอาใจคนรักการถ่ายภาพหรือแม้แต่การตกแต่งภาพบ้าง ไหน ๆ ออกไปเที่ยวทั้งที ถ่ายภาพเก็บความประทับใจมาด้วยแล้ว ก็เอามาแปลงเป็นรายได้ด้วยการขายออนไลน์ซะเลย
สำหรับหมวดหมู่ย่อยของหมวดภาพถ่าย คราว ๆ ดังนี้นะครับ
– ภาพถ่ายบุคคล
– ภาพถ่ายทิวทัศน์
– ภาพถ่ายเพื่องานโฆษณา
– Preset Lightroom
6 ไอที เทคโนโลยี คราวนี้เอาใจสายไอที โปรแกรมเมอร์กันบ้าง มีสินค้าดิจิตอลหลาย ๆ อย่างที่กลุ่มคนสายไอที หรือโปรแกรมเมอร์สามารถทำออกมาขายและสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างคราว ๆ
– แอพพริเคชั่น
– เกมส์
– ปลั๊กอิน
– ธีมเว็บไซต์
7 ทักษะและความสามารถ ถึงเวลาแปลงทักษะและความสามารถให้เป็นรายได้กันแล้ว สำหรับหัวข้อนี้ผมเชื่อว่าทุกคนมีทักษะและความสามารถที่แตกต่างกัน ดังนั้นอย่าลังเลที่จะดึงศักยภาพในตัวเพื่อน ๆ ออกมาแปลงเป็นรายได้กัน
ลองมาดูกันว่ามีทักษะไหนบ้างที่จะสามารถนำมาสร้างเป็นสินค้าดิจิตอลได้
– สอนภาษา
– ที่ปรึกษาทางการเงิน
– วางแผนการเงิน
– โค้ช
– ติวเตอร์
– นักแปล
– นักตรวจบัญชี
– ที่ปรึกษาต่าง ๆ
– พิสูจน์อักษร
– สอนออกกำลังกาย
– วางแผนอาหารและโภชนาการ
จากตัวอย่างหมวดหมู่สินค้าดิจิตอลข้างต้น เพื่อน ๆ น่าจะมองเห็นภาพกันไปพอสมควรแล้วใช่ไหมครับ ซึ่งแต่ละหมวดหมู่ล้วนน่าสนใจทุกตัวเลย มาถึงตรงนี้แล้ว ผมแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกหมวดที่ชอบที่สุด และลงมือสร้างสินค้าดิจิตอลให้พร้อมขายบนร้านค้าออนไลน์ของเพื่อน ๆ ต่อไป อย่าลืมสิ่งที่ผมบอกตอนต้นเรื่อง คุณค่าและคุณประโยชน์ในตัวสินค้า
ดังนั้นไม่ว่าเพื่อน ๆ จะทำเป็นรายได้เสริม หรือเป็นธุรกิจออนไลน์เต็มรูปแบบ ขอให้เพื่อน ๆ โชคดีและประสบความสำเร็จทุกคนนะครับ !