Preecha Subpasriสิ่งหนึ่งที่ผมเจอ และเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ทำ email marketing น่าจะต้องเคยเจอเช่นกัน
นั้นคือ การจัดการกับลิสต์ที่ไม่มีการแอคทีฟ ไม่เปิดอ่าน ไม่คลิกลิ้งค์ ไม่อะไรทั้งสิ้น
ถึงแม้จะทำการ Re-Engagement ไปกี่รอบ ก็ยังมีความเฉย
การที่เรามีลิสต์ที่ไม่มีการแอคทีฟใด ๆ จะมีผลต่อต้นทุนการดูแลของเรา
ตัวอย่างผมใช้บริการ email marketing ของค่าย activecampaign
อย่างแพ็คเก็จเริ่มต้นตกเดือนละ 15$ ได้ ซึ่งจำกัดอีเมล์ลิสต์อยู่ที่ 500 อีเมล์
ยกตัวอย่างอีเมล์ที่ไม่แอคทีฟสัก 100 อีเมล์ลิสต์ของเรา
จะทำให้เราเสียโอกาสในการสร้างลิสต์ใหม่ ๆ ไปถึง 20% เลย
ถ้าคิดแบบหยาบ ๆ ว่า 1 อีเมล์ มีมูลค่า 10$
เท่ากับว่าเรากำลังสูญเสียรายได้กว่า 1000$ เลยทีเดียว
เมื่อก่อนผมใช้วิธีการขยายแพ็คเก็จ เพื่อเก็บอีเมล์ให้ได้มากขึ้น
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่มีอีเมล์ที่ไม่ทำเงินมากขึ้น
สิ่งที่ผมทำหลังจากติดกับปัญหานี้อยู่พักใหญ่
คือการเขียน automation เข้ามาช่วยในการเคลียร์อีเมล์ที่ไม่แอคทีฟ
โดยต้องยอมตัดใจ ถึงแม่ว่าบางอีเมล์ในลิสต์จะเคยเป็น buyer list ก็ตาม
ผมต้องการความพิเศษมากกว่านั้นคือ active buyer list มากกว่า
นอกจากการเคลียร์อีเมล์ที่ไม่แอคทีฟแล้ว ผมยังทำ automation ในการสร้างความสัมพันธ์กับลิสต์เพิ่มมากขึ้น
โดยสร้าง email series กว่า 180 ฉบับ ยาวครึ่งปีกันไปเลย
แต่หากยังไม่มีการแอคทีฟอีกก็บอกล่ากันตั้งแต่ 60 วันแรก
มีอาจารย์ที่ผมนับถือแนะนำว่าให้ใช้ 30 วันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
กับการดูว่าใครควรจะอยู่ในลิสต์ของเรา
ซึ่งเป็นอีกสเตปที่ผมกำลังจะทำเพิ่มในเร็ว ๆ นี้
ส่วนปัจจุบันนี้ผมทำ automation ไว้ 2 ตัว คือ wait กับ reset
โดยจะติดแท็ก 30 วันและ 60 วัน ถ้าไม่แอคทีฟก็ให้ระบบทำการ unsubscribe
แต่หากมีการแอคทีฟ ก็จะทำการ reset แล้วส่งกลับไปที่ wait ใหม่อีกที
ปัจจุบันอีเมล์ลิสต์ของผมไม่ได้ใหญ่ แต่จะมีเฉพาะลิสต์ที่เป็น buyer list 80%
ส่วน 20% ผมเพิ่งทำแคมเปญทดสอบอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งยังไม่ได้อยู่ในกลุ่ม buyer list
แต่น่าจะอีก 15-20 วัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิดไว้ ก็น่าจะย้ายจาก free list มาเป็น buyer list ได้บ้าง
ถ้าคุณเป็นคนที่ทำ email marketing อยู่แล้ว
คุณมีวิธีจัดการกับ inactive list ยังไง ???
มาแชร์ไอเดียและวิธีรับมือกันนะครับ
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะครับ
